ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LAN)
ระบบเครือข่ายไร้สาย (Wireless LANs) เกิดขึ้นครั้งแรก ในปี ค.ศ.1 197 บนเกาะฮาวาย โดยโปรเจกต์ ของนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่ชื่อว่า “ALOHNET” ขณะนั้นลักษณะการส่งข้อมูลเป็นแบบ Bi-directional ส่งไป-กลับง่ายๆ ผ่านคลื่นวิทยุ สื่อสารกันระหว่างคอมพิวเตอร์ 7 เครื่อง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ 4 เกาะโดยรอบ และมีศูนย์กลางการเชื่อมต่ออยู่ที่เกาะๆหนึ่ง ที่ชื่อว่า Oahu
รูปแบบการเชื่อมต่อระบบแลนไร้สายแบบ Peer to Peer เป็นลักษณะ การเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่องหรือมากกว่านั้น เป็นการใช้งานร่วมกันของ wireless adapter cards โดยไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเลย
Multiple access points and roaming จุดเชื่อมต่อหลายและใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ
โดยทั่วไปแล้ว การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ กับ Access Point ของเครือข่ายไร้สายจะอยู่ในรัศมีประมาณ 500 ฟุต ภายในอาคาร และ 1000 ฟุต ภายนอกอาคาร หากสถานที่ที่ติดตั้งมีขนาดกว้าง มากๆ เช่นคลังสินค้า บริเวณภายในมหาวิทยาลัย สนามบิน จะต้องมีการเพิ่มจุดการติดตั้ง AP ให้มากขึ้น เพื่อให้การรับส่งสัญญาณในบริเวณของเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นไปอย่างครอบคลุมทั่วถึง
Multiple access points and roaming จุดเชื่อมต่อหลายและใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ
โดยทั่วไปแล้ว การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ กับ Access Point ของเครือข่ายไร้สายจะอยู่ในรัศมีประมาณ 500 ฟุต ภายในอาคาร และ 1000 ฟุต ภายนอกอาคาร หากสถานที่ที่ติดตั้งมีขนาดกว้าง มากๆ เช่นคลังสินค้า บริเวณภายในมหาวิทยาลัย สนามบิน จะต้องมีการเพิ่มจุดการติดตั้ง AP ให้มากขึ้น เพื่อให้การรับส่งสัญญาณในบริเวณของเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นไปอย่างครอบคลุมทั่วถึง
The Use of Directional Antennas การใช้เสาอากาศทิศทาง
ระบบแลนไร้สายแบบนี้เป็นแบบใช้เสาอากาศในการรับส่งสัญญาณระหว่าง อาคารที่อยู่ห่างกัน โดยการติดตั้งเสาอากาศที่แต่ละอาคาร เพื่อส่งและรับสัญญาณระหว่างกัน
วิธีการ Setup TU Wireless LAN (WLAN) หรือ LAN ไร้สาย
1. ที่ My Computer ให้เรา Click mouse ปุ่มขวามือแล้วเลือก Properties
2. เราก็จะได้ภาพ System Properties
3. Click mouse ที่หัวข้อ Hardware
4. Click mouse ที่ Device Manager เราก็จะเห็น Hardware ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง ของเราเยอะแยะมากมาย ดังภาพ
5. ที่หัวข้อ Network Adapters ด้านซ้ายมือสุดจะเห็นเครื่องหมาย + ให้เรา click mouse ลงไป แล้วเราก็จะเห็นรายการของ Network Adapters ที่ถูกติดตั้งมาในเครื่องนี้
6. ก่อนจะจบ Hardware ดูอีกนิดครับ เพราะ Notebook หลาย ๆ ยี่ห้อ ได้ทำสวิทช์เลือนไว้ (จะเป็นหน้าด้าน หรือด้านข้างก็พลิกดูด้วยครับ เดี๋ยวจะไม่ทำงาน)
7. Click mouse ที่ปุ่ม Start, มาที่ Connect to แล้ว Click mouse ที่หัวข้อ Wireless Network Connection เพื่อผลลัพธ์ดังนี้
8. ที่ด้านบนสุดซ้ายมือ Click mouse ที่หัวข้อ General, ที่ด้านล่างซ้ายมือ Click mouse ที่หัวข้อ Properties
9. ที่ Scroll Bar ด้านขวามือ ให้ Scroll Down ลงมาจนพบรายการ Internet Protocol ดังรูป
10. Double Click mouse ทับที่รายการ Internet Protocol (TCP/IP) อย่าทำให้ เครื่องหมาย หน้ารายการดังกล่าวหายไปเชียวนะครับ แล้วก็จะปรากฏภาพดังนี้
11. กลับมาที่ภาพเดิม
Click mouse ที่หัวข้อ View Wireless Networks ด้านล่างขวามือ จากนั้นเราก็จะเห็น Wireless Access Point ที่เราสามารถเชื่อมต่อเพื่อเข้าไปใช้งาน คำแนะนำคือ สังเกตดู ความแรงของสัญญาณที่ปรากฎอยู่บนจอภาพของเรา (คล้ายสัญญาณมือถือของเรานั่นแหละครับ ตัวไหนแรงที่สุดก็ให้เลือกที่ตัวนั้น ๆ แล้ว click mouse ที่ปุ่ม connect ด้านล่างขวามือ เป็นอันเสร็จพิธี
12. ทำการตรวจสอบความพร้อมในการเล่น Internet ก็ขอให้ดูภาพนี้
การออกแบบระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Ad-Hoc ระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Ad-Hoc Basic Service Set (BSS) คือกลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์บนระบบเครือข่ายไร้สายที่กำหนดย่านความถี่วิทยุ (Channel) สำหรับรับส่งข้อมูลย่านเดียวกัน มีการกำหนดชื่อ BSSID เดียวกัน และอยู่ในพื้นที่ที่สามารถรับส่งข้อมูลถึงกันได้ หรืออธิบายง่าย ๆ
ก็คือ BSS ก็เหมือนกับหนึ่ง Workgroup ในระบบ Windows ส่วน BSSID เปรียบเสมือนชื่อของ Workgroup นั่นเอง
11 Mbps 5.5 Mbps 2 Mbps 1 Mbps
แสดงระยะและความเร็วโดยประมาณในการสื่อสารบนระบบเครือข่ายไร้สาย ความเร็วในการรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์จะแปรผกผันกับระยะทาง ถ้ายิ่งคุณตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์
ห่างกันมากเท่าไร ความเร็วที่ได้ก็จะลดลง สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่เป็นผลทำให้ความเร็วและระยะทาง
ในการรับส่งข้อมูลลดลงคือ สิ่งกีดขวาง เช่น กำแพง ผนังกระจก รวมถึงสัญญาณรบกวนต่าง ๆ
ห่างกันมากเท่าไร ความเร็วที่ได้ก็จะลดลง สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่เป็นผลทำให้ความเร็วและระยะทาง
ในการรับส่งข้อมูลลดลงคือ สิ่งกีดขวาง เช่น กำแพง ผนังกระจก รวมถึงสัญญาณรบกวนต่าง ๆ
การออกแบบระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Roaming
การออกแบบระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Infrastructure ให้ครอบคลุมพื้นที่และให้บริการได้กว้างไกล นอกจากการปรับเปลี่ยนสายอากาศของ Access Point ให้มีกำลังส่งที่สูงแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่คุณทำได้คือการติดตั้ง
Access Point เพิ่มเข้าไปในบริเวณที่เป็นจุดอับสัญญาณ และให้รัศมีการส่งคลื่นของ Access Point แต่ละตัวคาบเกี่ยวกัน (เหมือนโครงข่ายโทรศัพท์มือถือแบบ Cellular) ซึ่งการขยายพื้นที่ให้บริการด้วยวิธีนี้เรียกว่า “การทำ Roaming”
Access Point เพิ่มเข้าไปในบริเวณที่เป็นจุดอับสัญญาณ และให้รัศมีการส่งคลื่นของ Access Point แต่ละตัวคาบเกี่ยวกัน (เหมือนโครงข่ายโทรศัพท์มือถือแบบ Cellular) ซึ่งการขยายพื้นที่ให้บริการด้วยวิธีนี้เรียกว่า “การทำ Roaming”
ระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Roaming
ข้อแนะนำในการออกแบบระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Roaming
ในการติดตั้งอุปกรณ์ Wireless Access Point มากกว่าหนึ่งตัวในบริเวณที่รัศมีการให้บริการคาบเกี่ยว
กัน คุณควรจะกำหนดช่องความถี่วิทยุ (Channel) ให้แตกต่างกัน เช่น Access Point ตัวแรกตั้ง
ช่องสัญญาณเป็นช่องที่ 1 (CH1) ตัวที่สองก็ควรตั้งเป็นช่องที่6 (CH6) หรือช่องความถี่อื่น ๆ เพื่อหลีก
เลี่ยงการส่งสัญญาณรบกวนกันเองระหว่าง Access Point
กัน คุณควรจะกำหนดช่องความถี่วิทยุ (Channel) ให้แตกต่างกัน เช่น Access Point ตัวแรกตั้ง
ช่องสัญญาณเป็นช่องที่ 1 (CH1) ตัวที่สองก็ควรตั้งเป็นช่องที่6 (CH6) หรือช่องความถี่อื่น ๆ เพื่อหลีก
เลี่ยงการส่งสัญญาณรบกวนกันเองระหว่าง Access Point
การเชื่อมโยงแบบจุดต่อจุด (Point to Point)
วิธีเชื่อมโยงแบบจุดไปจุดใช้สำหรับการเชื่อมระหว่างสองเครือข่ายเข้าด้วยกัน คุณต้องใช้อุปกรณ์ Wireless Bridge
สองเครื่องนำไปติดตั้งในสำนักงานทั้งสอง จากนั้นทำการเชื่อมสายสัญญาณที่มีความยาวไม่เกิน 100 เมตร จาก Wireless Bridge ไปยังฮับหรือสวิตซ์ในระบบอีเทอร์เน็ตแลน ดังรูป
สองเครื่องนำไปติดตั้งในสำนักงานทั้งสอง จากนั้นทำการเชื่อมสายสัญญาณที่มีความยาวไม่เกิน 100 เมตร จาก Wireless Bridge ไปยังฮับหรือสวิตซ์ในระบบอีเทอร์เน็ตแลน ดังรูป
รูปการเชื่อมระบบเครือข่ายไร้สายแบบจุดไปจุด
การเชื่อมโยงแบบจุดไปยังหลายจุด (Point to Multi Point)
การเชื่อมโยงระบบเครือข่ายโดยอาศัย Wireless Bridge แบบจุดไปยังหลายจุดมีหลักการคล้ายแบบจุดไปยังจุด
เพียงคุณต้องใช้ Wireless Bridge เพิ่มขึ้นตามจำนวนสำนักงานที่ต้องการเชื่อมโยงระบบเข้าหากัน
เพียงคุณต้องใช้ Wireless Bridge เพิ่มขึ้นตามจำนวนสำนักงานที่ต้องการเชื่อมโยงระบบเข้าหากัน